กลยุทธ์ปกป้องระบบ Cloud
- Siriluk Sithsakonkul
- 27 พ.ค.
- ยาว 1 นาที
เสริมเกราะให้ธุรกิจยุค Hybrid Work ปลอดภัย ไร้สะดุด

ในวันที่การทำงานแบบ Hybrid กลายเป็นวิถีปกติขององค์กรทั่วโลก การพึ่งพาระบบคลาวด์ก็เพิ่มสูงขึ้นตามมาอย่างรวดเร็ว คลาวด์ได้กลายเป็นกำลังหลักที่ช่วยให้ธุรกิจปรับตัวและเดินหน้าต่อไปได้อย่างคล่องตัว แต่ในอีกมุมหนึ่ง มันก็กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าของระบบ IT และเปิดช่องให้กับภัยคุกคามใหม่ ๆ ที่เราไม่อาจมองข้าม
เพื่อป้องกันไม่ให้ “ความสะดวก” กลายเป็น “ช่องโหว่” ที่ทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงักโดยไม่จำเป็น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับภัยคุกคามบนระบบคลาวด์ในยุค Hybrid Work และแนวทางในการวางกลยุทธ์รักษาความปลอดภัยที่ตอบโจทย์โลกยุคใหม่
เมื่อ Hybrid Work เร่งการย้ายระบบขึ้น Cloud
จากรายงานล่าสุด พบว่า 94% ขององค์กรทั่วโลกปรับใช้โมเดลการทำงานแบบ Hybrid ส่งผลให้โครงสร้างระบบ IT เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ และหนึ่งในเครื่องมือที่องค์กรขาดไม่ได้คือบริการคลาวด์ เช่น SaaS (Software-as-a-Service) ที่ช่วยสนับสนุนทีมงานจากระยะไกล
แม้คลาวด์จะเปิดทางให้ธุรกิจรับมือกับปัญหาได้ดีขึ้น ทั้งเรื่องซัพพลายเชนที่ผันผวนหรือพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป แต่อัตราเร่งในการนำคลาวด์มาใช้นั้น มักเร็วกว่าการวางระบบรักษาความปลอดภัย ทำให้เหล่าแฮกเกอร์จับตาช่องว่างเหล่านี้อย่างใกล้ชิด
ความท้าทายด้านความปลอดภัยของระบบคลาวด์
ระบบคลาวด์ไม่เหมือนกับระบบภายในองค์กรแบบเดิม ซึ่งก่อให้เกิดความซับซ้อนใหม่ ๆ ที่ต้องอาศัยวิธีป้องกันเฉพาะทาง ได้แก่:
1. มาตรการรักษาความปลอดภัยที่ไม่เพียงพอระบบที่ไม่ได้อัปเดต ช่องโหว่ที่ยังไม่ได้แพตช์ และการตรวจจับภัยคุกคามที่ไม่ครอบคลุม ล้วนเปิดทางให้ผู้ไม่หวังดีเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้โดยง่าย
2. การตอบสนองภัยคุกคามล่าช้าการตอบสนองที่ไม่ทันการณ์มักนำไปสู่ความเสียหายรุนแรง เพราะแฮกเกอร์มักใช้เวลาสอดแนมจุดอ่อนก่อนลงมือโจมตีจริง
3. การตั้งค่าคลาวด์ผิดพลาด (Misconfiguration)การตั้งค่าแบบไม่รู้ลึกอาจทำให้ข้อมูลรั่วไหล เช่น การเปิดสิทธิ์เข้าถึงแบบสาธารณะโดยไม่ตั้งใจ
ภัยคุกคามใหม่ในโลกของคลาวด์
1. Ransomware as a Service (RaaS)แพลตฟอร์มที่ให้บริการแรนซัมแวร์แบบสำเร็จรูป ทำให้แม้แต่แฮกเกอร์มือใหม่ก็สามารถปล่อยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ได้
2. มัลแวร์ขั้นสูง (Advanced Malware)มัลแวร์ยุคใหม่หลบเลี่ยงการตรวจจับแบบเดิมได้ง่าย เช่น มัลแวร์ไร้ไฟล์ (Fileless Malware) หรือการใช้เครื่องมือภายในองค์กรเองโจมตี (Living-off-the-land)
3. การโจมตีผ่านห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Attack)ผู้ไม่หวังดีเจาะเข้าระบบของซัพพลายเออร์ เพื่อเข้าถึงเป้าหมายปลายทาง ทำให้ความเชื่อมั่นต่อผู้ให้บริการภายนอกลดลง
4. ความเสี่ยงจากภายใน (Insider Threat)ไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม ความผิดพลาดของบุคลากรภายในยังคงเป็นจุดอ่อนที่มองข้ามไม่ได้
กลยุทธ์หลักในการปกป้องระบบคลาวด์
เพื่อสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่ง ธุรกิจควรเริ่มจาก:
✅ Next-Gen Antivirus แบบวิเคราะห์พฤติกรรมและระดับ Kernelต่างจากแอนตี้ไวรัสเดิมที่ต้องพึ่งลายเซ็นของมัลแวร์ NGAV วิเคราะห์พฤติกรรมผิดปกติแบบเรียลไทม์ พร้อมหยุดการแพร่กระจายทันที
✅ Threat Intelligence แบบเรียลไทม์อัปเดตภัยคุกคามจากทั่วโลกตลอดเวลา พร้อมข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยวางแผนตอบสนองอย่างรวดเร็ว
✅ Multi-Factor Authentication (MFA)เพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงระบบโดยให้ผู้ใช้ยืนยันตัวตนหลายขั้นตอน
✅ EDR ที่ออกแบบมาสำหรับคลาวด์ระบบตรวจจับและตอบสนองที่ติดตามการใช้งานปลายทางในคลาวด์ได้ละเอียด พร้อมฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การล่าภัยคุกคามอัตโนมัติ
✅ การตรวจสอบความปลอดภัยของคลาวด์เป็นประจำเพื่อค้นหาและแก้ไขการตั้งค่าผิดพลาดหรือช่องโหว่ ก่อนที่แฮกเกอร์จะใช้ประโยชน์จากมัน
✅ ฝึกอบรมพนักงานอย่างต่อเนื่องเพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับฟิชชิง การหลอกลวง และวิธีรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
รุกก่อน รอดก่อน
ยุค Hybrid Work ไม่อาจพึ่งพาวิธีป้องกันแบบรอให้เกิดปัญหาแล้วค่อยแก้ได้อีกต่อไป องค์กรที่พร้อมจะรับมือ ต้องมีแนวทาง “เชิงรุก” โดยเน้นที่การป้องกัน การตรวจจับ และตอบสนองแบบเรียลไทม์
เริ่มต้นวันนี้ด้วยการเลือกโซลูชันความปลอดภัยบนคลาวด์ที่ทันสมัย เช่น NGAV, ระบบ Threat Intelligence และการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญของคุณจากภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
อยากรู้วิธีปกป้องระบบคลาวด์ให้มั่นคง? ดาวน์โหลดคู่มือ Cloud Security ฉบับเต็มของเราได้เลยวันนี้






ความคิดเห็น